วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

วิธีง้อ...เพื่อนซี้ !!


1.ทำใจไว้ก่อนในเมื่อคุณเป็นฝ่ายผิดก็ต้องขอบอกตรงๆ ให้ทำใจไว้ก่อนเลยว่า เพื่อนของคุณอาจไม่ยกโทษให้ง่ายๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับความผิดที่ทำและลักษณะนิสัยของเพื่อนว่าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นมากแค่ไหนและไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง คุณและเพื่อนจะกลับมาซี้ปึ๊กกันเหมือนเดิมหรือเปล่า ก็คงยอมรับให้ได้ คิดซะว่าเป็นผลกรรมที่เราทำกับเพื่อนไว้ก็แล้วกัน เฮ้อออ!

2.จดหมายน้อยสานสัมพันธ์ถ้าการเริ่มต้นพูดซึ่งๆ หน้าทำยากเกินไป ก็ต้องใช้ตัวกลางอย่างการเขียนจดหมาย เขียนอธิบายความรู้สึกและเหตุผลของเรา พร้อมทั้งยอมรับในส่วนที่เราผิดไป โดยไม่กล่าวหาหรือพากพิงในส่วนของเพื่อน (หลายคนคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องยากเพราะโดยธรรมชาติของคนเรามักไม่ค่อยยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเองหรอก จริงงมั้ย??) แล้วอ่านให้เพื่อนฟัง จะอ่านต่อหน้าให้เห็นกันจะจะ หรือผ่านทางโทรศัพท์ก็ตามสะดวกใจ ซึ่งจะทำให้ความในใจของคุณที่ต้องการส่งถึงเพื่อนเป็นไปอย่างไม่ผิดเพี้ยนและไม่ขาดตกบกพร่อง

3.ซื่อสัตย์ จริงใจ ชนะได้ทุกสิ่งเมื่อถึงเวลาที่ต้องพูดจากันเป็นครั้งแรกหลังจากผิดใจไม่มองหน้ากันไปนาน ให้ใช้ความซื่อสัตย์และจริงใจเป็นใบเบิกทางสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่ (กับเพื่อนคนเก่า) ให้สดใสแนบแน่นกว่าเดิม หลังจากที่ย้อนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่คุณทั้งสองคนเคยมีร่วมกันกันแล้ว ก็อย่าลืมแบ่งความสนใจไปแก้สิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์กลายเป็นลบของคุณและเพื่อนด้วย จะได้ไม่เกิดรอยร้าวขึ้นที่ความสัมพันธ์ของคุณได้อีก

4.ให้เวลาเยียวยาหัวใจหลังจากที่พูดคุยเปิดใจกันอย่างหมดเปลือกไปแล้วคุณคงต้องให้เวลาเพื่อนกลับไปทบทวนว่าความผิดครั้งนี้ควรค่าแก้การอภัยให้ได้มั้ย ถ้าหากว่าอยากให้คืนดีครั้งนี้เกิดขึ้นจากความรู้สึกที่แท้จริงของทั้งสองฝ่าย ก็ระวังอย่าแสดงอาการให้ดูเหมือนว่าคุณเร่งรัดเพื่อนเกินไป จนทำให้เขาอึดอัด จากนั้นทำข้อตกลงระหว่างกันให้เคลียร์คัทชัดเจนไปเลย แล้วเริ่มต้นสัมพันธ์ใหม่ใสกิ๊ง...อีกครั้ง

วิธีกำจัดคราบเหลืองใต้วงแขนเสื้อผ้า


วิธีกำจัดคราบเหลืองใต้แขนเสื้อผ้า

1. เทน้ำส้มสายชูลงบนคราบเปื้อนให้ชุ่ม ทิ้งไว้ประมาณ ครึ่งชั่วโมง
2. หลังจากนั้นเอาผงซักฟอกเทลงไปบนคราบเปื้อน (ไม่ต้องล้างน้ำส้มสายชูออกนะคะ)
3. แล้วใช้แปรงถูผ้าขัดวนไปรอบ ๆ รอยเปื้อนนั้น รอยเปื้อนก็จะจางลงค่ะ
4. ถ้าคราบเปื้อนจางลงแล้วแต่คราบยังออกไม่หมด ก็ให้เริ่มทำตั้งแต่ข้อ 1 ใหม่อีกครั้งค่ะ รับรองว่า รอยคราบจะหายไปเหมือนได้เสื้อใหม่กลับคืนมาค่ะ

อ้อ !!! ไม่ได้ใช้ได้แต่เฉพาะคราบเปื้อนสีเหลืองอย่างเดียวนะคะ คราบแข็งๆ ที่ติดอยู่ตรงรักแร้ของเสื้อก็จะค่อย ๆ นิ่มลง แล้วหายไปในที่สุดค่ะ นอกจากนั้นแล้วจะไม่มีกลิ่นเต่าติดที่เสื้อด้วยค่ะ (กรณีสำหรับคนที่มีกลิ่นตัว แต่เวลาซักเสื้อแล้วกลิ่นเต่ายังติดอยู่ที่เสื้อ)

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

● ข้ออ้างยอดนิยม ●


คนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆนั้น
มักจะมีข้ออ้างเกิดขึ้นในจิตใจอยู่เสมอ
ข้ออ้างยอดนิยมที่หลายๆคนใช้กันมีดังนี้


1.ข้ออ้างเรื่องสุขภาพ เช่น คิดว่าสุขภาพของตนไม่ดีเท่ากับคนอื่นๆ จึงไม่กล้าลงมือทำอะไรแข่งกับคนอื่นและปล่อยชีวิตให้ผ่านไปวันๆอย่างไร้ ประโยชน์ ทั้งๆที่ความเจ็บป่วยของร่างกายสามารถบรรเทาเบาบางได้ด้วยกำลังใจที่เข้ม แข็งของเราเอง

2.ข้ออ้างเรื่องความฉลาด เช่น คิดว่าตนเองสมองตื้อ จำอะไรไม่ค่อยได้ หรือประเมินความสามารถของตนเองต่ำเกินไปจึงไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรที่สลับซับซ้อน

ซึ่ง จริงๆแล้วทุกคนสามารถฝึกฝนสมองและความฉลาดปราดเปรื่องให้กับตนเองได้ ด้วยการศึกษาหาความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆเพิ่มเติมอยู่เสมอและจำให้ขึ้นใจ ว่า

"ความสามารถในการคิดมีค่ามากกว่าการท่องจำเหมือนที่ครั้งหนึ่ง ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลกเคยถูกคนลองภูมิด้วยคำถามว่า 1 ไมล์ มีกี่ฟุต ? เขาตอบว่า ผมไม่ทราบทำไม่ต้องมานั่งจดจำข้อมูลเหล่านี้ให้รกสมอง ในเมื่อผมสามารถค้นหาคำตอบได้ภายใน 2 นาทีจากหนังสืออ้างอิง"

3.ข้ออ้างเรื่องอายุ เช่น คนที่ชอบคิดว่าคงทำได้ไม่ดีเพราะแก่เกินไป หรือเด็กเกินไป
ซึ่งจริงๆแล้วทุกคนสามารถทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จได้ไม่ว่าจะมีอายุเท่าใด

4. เรื่องของโชค วาสนา คนส่วนใหญ่มักโทษว่าตนไม่มีโชค เลยทำอะไรไม่สำเร็จ
ทั้งๆที่ทุกคนสามารถเอาชนะสิ่งต่างๆได้ด้วยสมองและความขยันหมั่นเพียรของตนเอง

ขอให้ทุกท่านโชคดี มีชีวิตที่ดีขึ้นทุกวัน

ความผิดหวัง บอกเรา...


ความผิดหวัง บอกเราเรื่อง ความอดทน เราสามารถเอาชนะความรุ่มร้อน และอ่อนแอได้ ถึงจะยาก แต่ถ้าตั้งใจอย่างจริงจัง วันนี้ยังมีทางแก้ไขได้ ความผิดหวัง บอกเราเรื่อง การค้นคว้า เราสามารถเอาชนะความเขลา และเกียจคร้านได้ ถึงจะยาก แต่ถ้าจัดการกับตัวเองได้ วันนี้ยังมีทางสมหวัง ความผิดหวัง บอกเราเรื่อง ความไม่ประมาท เราสามารถเอาชนะความเผลอเรอ และหลงลืมได้ ถึงจะยาก แต่ถ้าฝึกฝน วันนี้ยังมีทางเป็นไปได้ ความผิดหวัง บอกเราเรื่อง การช่วยเหลือ เราสามารถเอาชนะความใจแคบ และมีอคติได้ ถึงจะยาก แต่ถ้าเพาะความเมตตา วันนี้ยังไม่สายเกินไป ความผิดหวัง บอกเราเรื่อง ความตั้งใจจริง เราสามารถเอาชนะความหวั่นไหว และหวาดกลัวได้ ถึงจะยาก แต่ถ้าเริ่มต้น วันนี้ยังมีทางสำเร็จ

● หลากหลายข้อคิด .. เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ●



ฟ้ามิได้แบ่ง ‘ยอดคน’ กับ ‘คนธรรมดา’ ออกจากกัน
ยอดคนจะปรากฏขึ้นเสมอแต่นั้นมิใช่เพราะ ‘ฟ้ากำหนด’ การที่ "ยอดคน"
ปรากฏขึ้นได้เพราะ เขาผ่านการ "ฝึกฝน" และ "เรียนรู้" ที่จะเป็นยอดคน
................................................................

"อัจฉริยะ" ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
แต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด
คนเก่งได้นั้นต้องได้รับการฝึกฝน ม้าดี ต้องมีคนขี่มาฝึกฝน ..
นักกีฬาที่ดีต้องมีโค้ทที่ดีมาฝึกฝน
....................…................................

Don't Look Down Yourself.
อดีตไม่สำคัญว่าเราเป็นใคร สำคัญที่ว่าวันนี้เราต้องการเป็นใคร
จงเคารพนับถือในความสามารถของตัวเอง ยกย่องและให้เกียรติตัวเอง
..................................…........................

สมองของคนเราเหมือนพื้นดินที่ว่างเปล่า
เมื่อเราปลูกอะไรลงไปเราก็จะได้ผลเป็นอย่างนั้น ... จงปลูกฝังแต่สิ่งดีๆ
ลงไปในสมองคำพูดใดๆ ที่เราเคยได้ยินซ้ำๆ ซากๆ เกิน 37 ครั้ง มันจะกลายเป็น
"อุปนิสัย" ของเราทันที
..................................…........................

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกคือ "สิ่งแวดล้อม" อย่าปล่อยให้ความคิดะ
หรือคำพูดของคนบางคนมาตัดสินชีวิตของเรา
ในโลกนี้ไม่มีใครมีอิทธิพลกับตัวเราเอง
นอกจากตัวเราเอง
......................................….....................

ชีวิตไม่ใช่เกมส์กีฬา ไม่มีเวลาพักครึ่ง ไม่มีการขอเวลานอก และที่สำคัญคือ
‘เปลี่ยนตัวผู้เล่นไม่ได้’ ไม่มีใครเกิดมา ‘ล้มเหลว’ มีแต่ ‘ล้มเลิก’
.........................................

คนฉลาด.. ต้องโง่เป็น คนโง่ไม่เป็น..จะไม่มีทางฉลาด
.........................................

เพียงคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็ทำได้ตั้งแต่ที่คุณคิด
แต่หากคุณคิดว่าคุณทำไม่ได้
คุณก็ทำไม่ได้ตั้งแต่ที่คุณคิด สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์
คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ‘ทางจิต’ ที่ตอกย้ำตัวเองว่า .. ทำไม่ได้
………………………………………………………………………….

แม้แต่ "คิด" ยังไม่กล้าที่จะคิด แล้วชีวิตจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
จงกล้าที่จะเผชิญความล้มเหลว.. ความล้มเหลวคือครูที่ทดสอบตัวเรา
If you want to have success, you have no choice.
.......................................................................

มนุษย์ คือจุดศูนย์กลางของเส้นรอบวงที่ไม่มีขีดจำกัด .. ทำไม?
มนุษย์เหมือนกันจึงประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน นั่นเป็นเพราะไม
มนุษย์แต่ละคนได้รับโอกาสทางความคิดที่แตกต่างกัน
................................................................

คนสำเร็จมองปัญหาเป็นโอกาส คนล้มเหลวมองโอกาสเป็นปัญหา
คนสำเร็จจะปรับตัวเองไปหาโลกภายนอกคนล้มเหลว จะให้โลกภายนอกปรับตัวเข้าหาตัวเอง
Team work is less ‘E-GO’ and more ’WE GROW’
.................................................................

คนสำเร็จระดับผู้บริหาร เป็นผู้นำขององค์กรต่างๆ ในโลกนี้ กว่า 85%
ทั่วโลกล้วนแล้วแต่มิใช่คนเก่ง แต่เป็นคนดีทั้งสิ้น คนเก่ง.. มักจะมี
‘อัตตา’
จะไม่ยอมปรับตัวเข้าหาโลก ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น่
ไม่ยอมรับการพัฒนา..ความรู้ และสิ่งใหม่ๆ ‘ปกครองคนไม่ได้’ คนเก่ง..ใช้เวลา
2-3 ปี
ก็สอนให้เก่งได้ .. แต่.. คนดีต้องใช้เวลา ‘ชั่วชีวิต’ สอนกัน
คนเก่งมักจะขาดความจงรักภักดี ไม่มีความกตัญญู
......................................................................

"ความรู้" เป็นเพียง "พลังอำนาจแฝง" ชนิดหนึ่งเท่านั้น "ความรู้"
จะกลายเป็น "พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่" ได้ก็ต่อเมื่อมันถูกนำ ไปใช้อย่างชาญฉลาดเท่านั้น
............................……………………………………….

ฟัง..แต่..ไม่ได้ยิน ได้ยิน..แต่..ไม่เข้าใจ เข้าใจ..แต่..ไม่ลึกซึ้งั้นย
ลึกซึ้ง..แต่..ไม่แตกฉาน แตกฉาน..แต่..นำไปใช้ไม่เป็น !!!
จงนำศักยภาพและอัจฉริยภาพที่ซ่อนเร้นในตัวเรา มาใช้อย่างชาญฉลาด
.....................................................................

ประโยชน์ ตำลึง ผักสวนครัวไทย


ตำลึงผักสวนครัว รั้วกินได้ ที่มากมายด้วยสรรพคุณทั้งเป็นยาป้องกันโรค เป็นอาหารทานแล้วมีประโยชน์สูง เพราะอุดมไปด้วยสารอาหาร

สรรพคุณ

ตำลึง อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์สูง เช่น สารเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และหัวใจขาดเลือด มีแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และยังมีฟอสฟอรัส เหล็ก ไนอาซิน วิตามินซีและอื่นๆ นอกจากนี้ จากการค้นคว้าของสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ตำลึงมีเส้นใยอาหารที่สามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ในกระเพาะอาหาร อีกด้วย สำหรับตำรายาแผนโบราณ ตำลึงถือเป็นยาเย็น ใบช่วยขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้อาการแพ้ อักเสบ แมลงมีพิษกัดต่อย แก้แสบคัน เจ็บตา ตาแดงและตาแฉะ แก้โรคผิวหนัง และลดน้ำตาลในเลือด

ราก : แก้ดวงตาเป็นฝ้า ลดความอ้วน แก้ไข้ทุกชนิด ดับพิษทั้งปวง ฝนทาภายนอก แก้ฝีต่างๆ แก้ปวดบวม แก้พิษร้อนภายใน แก้พิษแมลงป่องหรือตะขาบต่อย

ต้น : กำจัดกลิ่นตัว น้ำจากต้น รักษาเบาหวาน

เปลือกราก : เป็นยาถ่าย ยาระบาย

เถา : แก้ฝี ทำให้ฝีสุก แก้ปวดตา แก้โรคตา แก้ตาฝ้า ตาแฉะ แก้พิษอักเสบจากลูกตา ดับพิษร้อน ถอนพิษ เป็นยาโรคผิวหนัง แก้เบาหวาน

ใบ : เป็นยาพอกรักษาผิวหนัง รักษามะเร็งเพลิง แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ แก้จุกเสียด แก้หืด รักษาผื่นคันที่เกิดจากพิษของหมามุ้ย ตำแย บุ้งร่าน ใช้เป็นยาเขียว แก้ไข้ ดับพิษร้อน ถอนพิษทั้งปวง แก้ปวดแสบปวดร้อน ถอนพิษคูน แก้คัน แก้แมลงกัดต่อย แก้ไข้หวัด แก้พิษกาฬ แก้เริม แก้งูสวัด

ผล : แก้ฝีแดง

ทั้งห้า รักษาโรคผิวหนัง รักษาอาการอักเสบของหลอดลม รักษาเบาหวาน

ใช้ เป็นรักษาอาการแพ้ อักเสบ แมลงกัดต่อย เช่น ยุงกัด ถูกตัวบุ้ง แพ้ละอองข้าว โดยเอาใบสด 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียดผสมน้ำเล็กแล้วคั้นน้ำจากใบเอามาทาบริเวณที่มีอาการพอน้ำแห้ง แล้วทาซ้ำบ่อยๆจนกว่าจะหาย

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

วิธีแก้หูอื้อ หูตึง



อาการหูอื้อ หูตึง ส่วนหนึ่งเกิดจากขี้หูอุดตันอยู่ภายในโพรงหู และเมื่ออุดตันนานวันเข้าขี้หูก็จะจับตัวเป็นก้อนแข็ง

จน ทำให้ เกิดปัญหาในการรับฟังเสียงพูดที่จะได้ยินไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ถ้าหากไปพบแพทย์ หู ตา คอ จมูก ทางแพทย์ก็จะใช้เครื่องมือ ดูดขี้หูออกมา

แต่สำหรับสูตรของไทยโบราณซึ่งได้รับการถ่าย ทอดและพิสูจน์กันมาแล้วเห็นว่าได้ผลดีมากก็คือ

ให้
นำกระเทียมที่ปลอกเปลือกแล้วมาโขลกและคั้นเอาแต่น้ำมาหยอดหู จะทำให้ได้ยินเสียงการสนทนาได้ชัดเจนขึ้น

● เมื่อพวกเราเป็นเด็ก ●


มื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว เราจะอายุประมาณ 3-4 ขวบได้ และจะมีความคิด ความสงสัย มุมมอง การกระทำ ที่ประหลาดและติงต๊องที่สุด ดังนี้

1. เราคิดว่ามาม่า ไวไว ยำยำ ทุกซองจะมีเนื้อสัตว์ พร้อมผักจัดมาอย่างสวยงาม ดูน่ากินเหมือนภาพบนซอง ไม่ใช่มีแต่เส้น น้ำ และไข่

2.เราคิดว่านมตราหมี เป็นนมจากเต้าของหมี แล้วนำมาใส่กระป๋อง สำหรับให้คนที่เรารัก (คำโฆษณา)

3.เราคิดว่าเส้นขนหรือผม จะงอกได้เร็วข้นถ้าเราเอาน้ำรดมัน

4.เรา คิดว่าเครื่องเล่นวีดีโอสมัยก่อน คือเครื่องส่งจดหมาย เราจึงส่งจดหมายเป็น 10 ฉบับเข้าไป และรอดูรายการดิสนี่ย์คลับตอนเช้าวันเสาร์ แต่เราไม่เคยเห็นพี่นัท พี่แนนอ่านจดหมายพร้อมโชว์รูปที่เราวาดออกทีวีเลย

5.เราคิดว่าหนังจักรๆ วงศ์ๆที่ทุกคนชอบดูในตอนเช้าวันเสาร์ช่อง7

คือเรื่องจริงในสมัยก่อน และเป็นรายการทีวีที่สนุกที่สุด

6.เรามักจะสงสัยเสมอว่าทำไม เวลาผู้ใหญ่ดูฟุตบอลกันต้องส่งเสียงดัง และร้องดีใจสุดขีด เมื่อมีคนเตะลูกบอลไปโดนตาข่าย

7.เราคิดว่าที่จริงแล้วฝรั่งพูดภาษาไทย แต่พอพูดกับคนอื่น ต้องพูดภาษาอังกฤษ

8.เราร้องเพลงชาติไม่ถูก

9.อาหารหลักในมื้อเช้า คือ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

10.ไก่ทอดของ KFC คือไก่ทอดที่อร่อยที่สุดในโลก

11.เราพยายามให้แม่ทอดเฟรนช์ฟรายให้กิน แต่พอทอดออกมา มันกลับไม่กรอบและมีแต่น้ำมันเยิ้ม

12.โดนบังคับให้นอนกลางวันทั้งๆที่ไม่อยากนอน แต่พอนอนหลับแล้วจะหลับต่อก็ปลุกให้ตื่น

13.โอวันตินของโรงเรียนอร่อยมาก แต่ให้กินถ้วยเล็กเท่าถ้วยเจ้าที่หน้าบ้าน

14.ผีคืออะไรก็ไม่รู้แต่น่ากลัวที่สุดเลย

15.ยาคูลท์ ทำไมขวดเล็กจัง

16.คำพูดที่จะพูดกับพ่อแม่เวลาถูกปฏิเสธตอนซื้อของเล่น คือ พ่อไม่รักหนู และ หนูไม่รักแม่แล้ว

17.ร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผล (ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเด็กทารก)

18.เช่นเดียวกันกับการหัวเราะ

19.สำหรับเด็กทั่วไปจะบอกว่าอยากเป็น หมอ พยาบาล ตำรวจ ครู (อาชีพtop 10) แต่พอโตขึ้นมา อาชีพตำรวจกับครูจะออกไปจากความคิดทันที

20.เด็กๆชอบคิดว่า ตัวเองโตแล้วและทุกอย่างได้เหมือนผู้ใหญ่

21.มีความหวังดีอยากช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านต่างๆ เช่น ซักผ้า รีดผ้า และทำกับข้าว แต่โดนสั่งห้ามทุกครั้ง

22. เราอ้วกกันบ่อยเหลือเกิน เนื่องมาจากเมารถ เมาเรือ ได้กลิ่นเหม็น

23.สำหรับเด็กที่บ้านไม่ใกล้ทะเล การไปเที่ยวทะเล ถือเป็นโอกาสพิเศษมาก สถานที่ยอดฮิต คือ บางแสน และพัทยา

24.ต่อเนื่องจากข้อ 23 ถ้าพ่อแม่ไม่มีเวลาพาไปทะเลจริงๆ สวนสยาม ทะเลกรุงเทพฯ คือคำตอบ

25.อยากรู้ อยากเห็น อยากทดลองว่าพัดลมมีหลักในการทำงานอย่างไร

26.เช่นเดียวกัน อยากรู้ว่าในรูปลั๊กไฟมีอะไร

ฉลาดเลือก ... ใช้แปรงสีฟัน


การแปรงฟันเป็นวิธีการทำความสะอาดช่องปาก ที่ช่วยกำจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหาร ที่ตกค้างออกจากช่อง ปาก เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคฟันผุและเหงือกอักเสบ แปรงสีฟัน... เป็นเครื่องมือสำคัญ สำหรับช่วยในการแปรงฟัน เราจึงรู้จักวิธีการเลือกแปรงสีฟันที่ดี ซึ่งจะทำได้ดังนี้คือ

ก่อนซื้อ ... ต้องดูฉลาก

1) ดูที่ชนิดของแปรงสีฟันควรเลือกแปรงสีฟันชนิดนุ่ม(soft) หรือ ปานกลาง(medium)

2) มีการระบุว่า มนปลายขนแปรง(end-rounded)

3) แปรงสีฟันมีความยาวคลุมฟัน ประมาณ 2 ซี่ ถึง 2? ซี่ และ

4) ดูว่ามีชื่อบริษัทผู้ผลิตด้วย

เมื่อแกะกล่องควรตรวจแปรงสีฟันดังนี้

1) เอานิ้วลูบตามขอบของหัวแปรงสีฟัน ต้องไม่มีส่วนใดที่มีความคม หรือเป็นมุมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อเหงือกและกระพุ้งแก้ม

2) เอานิ้วลูบหน้าตัดขนแปรง ต้องไม่คมบาดมือและขนแปรงควรสปริงตัวได้ดี

3) ด้ามแปรงจับถนัดมือ

ทำไม ต้องเลือกขนแปรงชนิดนุ่ม

เพราะ ขนแปรงนุ่มสามารถเข้าทำความสะอาดบริเวณซอกฟันและร่องเหงือกได้ดี โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายและเหมาะสมกับวิธีแปรงฟันที่แนะนำ คือ วิธีแปรงฟันแบบ ขยับ-ปัด (Modified bass technique) ถ้าชอบแปรงสีฟันชนิด ปานกลาง ก็ขอให้ระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเหงือกและฟัน ดังนี้

(1) คอฟันสึก

(2) เหงือกร่น ซึ่งมีวิธีป้องกัน คือ

(2.1) ห้ามใช้วิธีการแปรงฟันแบบ ถูไป- มาแรงๆ เด็ดขาด ควรค่อยแปรงเบาๆ อย่ารีบร้อน

(2.2) ค่อยๆ ขยับแปรงสีฟันสั้นๆ ทีละ 2-3 ซี่ อย่าแปรงแบบลากยาว เพราะจะทำให้คอฟันสึกได้

วิธีที่ถูกต้องของการแปรงฟันแบบขยับ-ปัด คือ การ วางขนแปรงที่คอฟัน ซึ่งจะเป็นบริเวณที่มีการสะสมของคราบจุลินทรีย์ โดยทำมุมประมาณ 45 องศากับตัวฟัน เพื่อให้ขนแปรงสามารถเข้าไปทำความสะอาด บริเวณร่องเหงือกได้ แล้วขยับไปมาสั้นๆ 4-5 ครั้ง ฟันบนปัดลงล่าง ฟันล่างปัดขึ้นบน เมื่อย้ายไปแปรงตำแหน่งใหม่ ควรแปรงคล่อมฟัน ที่แปรงไปแล้วด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าได้ทำความสะอาดซอกฟันทุกแห่งอย่างทั่วถึง

● ความ " เคยชิน " ที่ทำให้ไร้สวย ●


มีหลายเรื่องที่สาว ๆ อย่างเราหลายคนทำจนชิน จนติดเป็นนิสัย โดยไม่ทราบเลยว่าสิ่งที่กำลังทำนั้น สร้างริ้วรอยและปัญหาหลาย ๆ อย่างบนผิวเราเอง เสร็จแล้วก็ไปสรรหาวิธีการมาแก้ปัญหาเหล่านั้น แท้ที่จริงแล้ว แก้ที่ต้นเหตุง่ายกว่ากันเยอะเลย..

ลองมาดูวิธีละทิ้งนิสัยที่ทำให้สาวสวยอย่างเราไร้สวยกันดีกว่านะคะ...

1. เข้านอนโดยไม่ได้ล้างหน้า
หาก เป็นแค่ลิปสติกเล็ก ๆ น้อย ๆ คงจะไม่หนักหนา แต่ทว่านอนหลับไปทั้งเมคอัพ รองพื้น แป้งฝุ่น อายแชโดว์ มาสคาร่า คงจะไม่ดีแน่ค่ะ เพราะเครื่องสำอางรวมทั้งคราบเหงื่อไคลและฝุ่นละออง จะทำให้รูขุมขนอุดตัน อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ริ้วรอย และทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น

2. บีบสิว
ควร หลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด นอกจากสิวนั้นจะสุกจนหัวใกล้ระเบิดออกมาเท่านั้น การแกะ เกา บีบ จะทำให้แบคทีเรียแพร่กระจายภายใต้ผิว ทำให้เกิดสิวมากขึ้นไปอีก และจะทิ้งรอยจารึกอยู่บนผิวคุณอีกนานนับเดือน

3. ยืมเครื่องสำอางกันใช้
ห้ามอย่าง เด็ดขาด แม้กระทั่งดินสอเขียนขอบปากหรือลิปสติก เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคืองบริเวณปาก หากผู้ที่เราหยิบยืมของมา เป็นโรคปากเปื่อย เฮอร์พีซ ไวรัส ซึ่งอาจติดต่อถึงเราได้ เครื่องสำอางรอบดวงตาก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นดินสอเขียนตา อายไลเนอร์ เพราะอาจทำให้เราติดเชื้อพวกตาแดงได้

4. หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลา
เมื่อ เวลาเครียด ประสบปัญหา สาวสวยอย่างเรามักลืมตัวชอบทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ซึ่งการทำเช่นนี้ก่อให้เกิดริ้วรอย เมื่อรู้ตัวว่ากำลังคิ้วขมวด ให้รีบแก้ไขด้วยการเบิกตาให้ดูกว้างขึ้น ยิ้มหวาน ๆ และท่องในใจว่า ไม่เครียด เดี๋ยวแก่...

5. กัดเล็บ
การ กัดแทะเล็บนั้นแสดงถึงความเป็นคนไม่ใส่ใจในบุคลิก นอกจากนี้ในด้านสุขภาพยังอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ลองส่องกล้องจุลทรรศน์ดู จะเห็นเชื้อโรคพวกแบคทีเรียเกาะอยู่ตามเล็บของเราเต็มไปหมด

6. ใช้สบู่ล้างหน้า
สบู่ เป็นตัวการทำลายน้ำหล่อเลี้ยงผิว นอกจากจะทำให้ผิวแห้งแล้ว ยังทิ้งสารตกค้างที่เป็นสารชะล้างไว้บนผิวอีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่มีส่วนผสมของสบู่ เพื่อรักษาความสวยของผิวพรรณไว้จะดีกว่าค่ะ

7. ชอบจับต้องใบหน้า นั่งเท้าคาง
การ ที่เราใช้มือจับต้องสิ่งต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน แล้วมาจับต้องใบหน้า เกาและเท้าคาง เป็นการถ่ายทอดเชื้อโรคสู่ผิวหน้า ทำให้เกิดสิว และผื่นต่างๆ ได้ง่าย

8. เลียริมฝีปากอยู่ตลอดเวลา
ไม่ ว่าจะเป็นนิสัย หรือการพยายามสร้างความเซ็กซี่ให้แก่เรียวปากก็ตามที ควรเลิกนิสัยนี้โดยเด็ดขาดเพราะผิวปากจะแห้งกร้าน ลองหันมาใช้ลิปสติกปกป้องบำรุงริมฝีปากแทนจะดีกว่าค่ะ

9. ดึงทึ้งเส้นผมเล่น
เป็นนิสัยที่ควรละเว้น เพราะจะทำให้เส้นผมอ่อนแอ หลุดร่วงได้ง่าย การรวบผมตึงแน่นเกินไปเป็นประจำก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง

10. ยืนงอ ห่อตัว
แม้ จะสวยกว่านางงาม หากยืนห่อไหล่ ห่อตัว จะทำให้ดูไม่สง่างามเลย นอกจากจะเสียบุคลิกแล้ว อาจทำให้ปวดหลังและเป็นโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารได้ค่ะ

ทราบแบบนี้แล้ว ข้อไหนที่ยังปฏิบัติอยู่ ถ้าลด ละ เลิก ได้ เราก็จะเป็นสาวสวยอย่างสมบูรณ์แบบได้แน่นอนค่ะ...

ยุงชอบกัดคนประเภทไหน


ยุงชอบกัดคนประเภทไหน

★ ยุงชอบกัดคนที่มีเหงื่อออกมาก

★ ยุงชอบกัดคนที่ตัวร้อน (อุณหภูมิบริเวณผิวหนังสูง)

★ ยุงชอบกัดคนที่หายใจแรง เพราะคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมากับลมหายใจเป็นตัวดึงดูดยุง

★ ยุงชอบกัดเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะกลิ่นและลักษณะผิวหนัง

★ ยุงชอบกัดผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะฮอร์โมนแตกต่างกัน

★ ยุงชอบกัดคนที่ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม เช่น สีดำ กรมท่า แดง เขียว มากกว่าสีขาว

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

วิ่งตาม ความรัก


สมัยตอนเป็นเด็ก.. จำได้ว่สในวิชาพละศึกษา คุณครูสั่งให้เราวิ่งรอบสนามกันคนละ 20 รอบ.. เพื่อจับเวลาของแต่ละคน .. แถมยังมีรางวัลมาล่อใจอีกด้วยว่า.. ใครเข้าเส้นชัยได้คนแรก.. จะมีคะแนนพิเศษเพิ่มให้

พอเริ่มออกสตาร์ท..
ฉันก็สังเกตเห็นเพื่อนหลายคน ..พยายามจะเบียดตัวเอง..ขึ้นมาอยู่แถวหน้าสุด.. เพื่อที่จะได้เปรียบคนอื่นในช่วงออกตัว แล้วพอครูบอกว่า..วิ่งได้-เท่านั้นแหละ .. เพื่อนหลายคนของฉัน..ก็วิ่งปรู๊ดออกไปแบบไม่คิดชีวิต ส่วนฉัน -- โน่น วิ่งอยู่หลังสุด ไม่ได้ช้า..เพราะเหนื่อย ..หรือเพราะวิ่งไม่เก่ง .. แต่ฉันกำลังรู้สึกสนุกสนาน..กับการวิ่งจับเวลาซะเหลือเกิน .. เพราะฉันวิ่งไป- คุยไป ..กับเพื่อนซี้รู้ใจ..แบบไม่สนเวลา .. ฉันสนใจความสนุกสนาน..ระหว่างการวิ่งมากกว่า บางที..เห็นคนข้างหน้า..ที่วิ่งนำมาหลายรอบ..กำลังชะลอความเร็ว ..เพราะเหนื่อยหอบ .. ก็อดที่จะขอวิ่งแซงหน้าบ้างไม่ได้ .. หรือบางที..หันไปเห็นเพื่อนที่วิ่งรั้งท้ายตลอด.. ก็จะพยายามวิ่งให้ช้าลง ..รอให้เขาวิ่งทัน..จะได้คุยไปด้วยกันหลายๆ คน….สนุกดี หรือบางที..รู้สึกไม่อยากแซงคนข้างหน้าขึ้นมาเฉยๆ.. เพราะว่าวิ่งตามหลังเขา.. จะได้แอบนินทาเขาได้.. สนุกไปอีกแบบ จะทำลายสถิติไหม ..ไม่รู้หรอก.. รู้แต่ว่า..วิ่งช้าๆ-มันไม่เหนื่อยเร็ว ..และขอแค่วิ่งให้ถึงเส้นชัย..ก็พอ * * คงคล้ายคล้าย..กับ 'ความรัก' ..กระมัง ทุกคน..มี 'เส้นชัย' ของตัวเอง ..มีสถิติ-ที่ตัวเองพอใจ แต่..คนที่เข้าเส้นชัยก่อน ..ใช่ว่า..จะคว้า 'ความรักที่ดี' ได้ก่อนเสมอไป .. และสถิติที่ดี.. ก็ไม่ได้การันตีว่า.. 'ความรัก' จะสมบูรณ์แบบ

ในขณะที่..สังคมทุกวันนี้..ปลูกฝังให้เราวิ่งแซงคนอื่น ๆ เสมอ ..
สอนว่า...อย่าพยายามให้ใครแซงหน้า.. เพราะนั่นหมายถึง.. ทำให้เราพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไป แต่..สังคมของ 'ความรัก' ..สอนให้คนรู้จักผ่อนจังหวะก้าว..ให้ช้าลง ..แต่หนักแน่นขึ้น โลกภายนอก..บอกให้เรารู้ว่า .. 'อย่าวิ่งตามใคร..ถ้าไม่แน่ใจว่า..จะตามเขาได้ทัน .. เพราะมันเสียแรงเปล่า.. และโง่เหลือเกิน' แต่.. 'โลกของความรัก' .. ใครอีกหลายคน...สมัครใจที่จะเป็น 'คนโง่'.. เพื่อวิ่งตาม 'คนที่ตัวเองรัก' ให้ทัน ..ทั้งที่รู้แก่ใจว่า.. 'ไม่มีวันนั้น'
………………………………

เพื่อนรักคนหนึ่งของฉัน.. มี 'เส้นชัย' ..ในหัวใจของเธอเอง คนรักของเธอ..เป็นนักวิ่งฝีเท้าดี ..เพราะตั้งแต่อยู่กันมา ..เขาออกวิ่งก่อนเธอเสมอ .. ไม่เคยบอกล่วงหน้า.. และไม่เคยชะลอความเร็วลงเลย .. แต่ความเร็วของเขา..ก็ไม่มากไปกว่า.. 'ความรัก' ที่เธอมี 'ความรัก' ทำให้เธอวิ่งเร็วขึ้น.. ใกล้เขามากขึ้น.. และไม่ยอมปล่อยให้เขาทิ้งระยะ..จนคลาดสายตาเธอ แต่..เมื่อเกือบที่จะถึงตัวเขา ..เธอก็จะเลือกที่จะ 'วิ่งให้ช้าลง' ..ราวกับว่า..จะวิ่งเหยาะๆ ..ตามเขาไปเรื่อยๆ เธอแซงหน้าเขาได้ ..แต่เธอไม่ทำ.. แม้แต่จะวิ่งให้ทันเขา-ในแนวเดียวกัน ..เธอก็ทำได้..แต่เธอไม่ทำ 'เหตุผล' ..ที่ฟังดูเหมือนง่ายของเธอ..ทำเอาใจฉันนิ่งงัน 'ถ้าวิ่งให้ทันเขา ..หรือแซงหน้าเขาไป ..ฉันก็คงมองไม่เห็นเขาในชีวิตอีก แต่ถ้าฉันวิ่งตามเขาห่างๆ แบบนี้ ..เท่ากับว่า.. ฉันยังได้เห็นความเป็นไปของเขา ..ยังมีเขาอยู่ในสายตา

..ในชีวิต
แม้ว่า..เขาจะไม่เคยหันหลังกลับมา.. แล้ววิ่งให้ช้าลงเลย..ก็ตาม'
'แล้วทำไม..ไม่เข้าใกล้เขากว่านี้ .. ทำไมต้องเว้นระยะห่างแบบนี้ด้วย.. เธอเป็นคนรักของเขานะ' คำถามของฉัน..ทำให้แววตาของเพื่อนรัก..ปรากฏรอยเศร้า … แต่ปากยิ้ม 'ฉันกลัวเขารู้ตัว.. แล้ววิ่งหนีฉันไป-ไกลยิ่งกว่านี้ .. ถึงวันนั้น..ฉันอาจเหนื่อยจนหมดแรง..ที่จะวิ่งตามอีกต่อไปแล้ว ห่างแบบนี้ดีกว่า ..ฉันได้เห็นเขา ..มันอุ่นใจ .. หรือถ้าวันหนึ่ง..เขาล้มลง… ฉันจะได้วิ่งเข้าไปช่วยพยุงได้ทัน และถ้ามันจะทำให้เขาเห็น 'ความจริงใจ' ของฉัน .. เขาอาจจะชวนฉันวิ่งไปพร้อมกันอีกครั้ง.. ถ้าเขาหายดีแล้ว'

*
* ความรัก..ทำให้คนมีความหวัง..อยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน ..มันก็ทำให้คนบางคน 'โง่งมงาย' เสียเต็มประดา ถ้าเพื่อน..เลือกที่จะวิ่งออกนอกเส้นทาง.. แล้วไปตั้งต้นใหม่..กับ 'ใครสักคน' ที่เขาพร้อมจะวิ่งไปกับเพื่อน.. ป่านนี้เพื่อนของฉัน..คงเข้าเส้นชัยไปนานแล้ว แต่..เพื่อนยังคงเต็มใจ..ที่จะวิ่งตามเขาไปเรื่อยๆ แม้ว่าบางที..อาจจะไม่มีวันนั้น ..

วันที่เพื่อนเข้า.. 'เส้นชัยแห่งความรัก'
เพราะบางที….. 'เส้นชัย' ..อาจไม่มีความหมายต่อคนบางคน.. หากว่า..เขาเข้าเส้นชัย ..แต่ได้ทำ 'หัวใจ' หล่นหายไป..ระหว่างทาง เมื่อ 'ความสุข' คือ… การโง่ที่จะรักและวิ่งตาม ในสังคมของความรัก… ฉันจึงมองเห็นคนที่ 'วิ่งช้า' ..และปรารถนาจะเป็น 'ผู้ตาม' ด้วยความเต็มใจ..อยู่เสมอ ความรัก ..ไม่ใช่สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต แต่ .. 'ความรัก' ..เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิต....มีค่ามากที่สุด * * ตอนนี้..ก็คงจะพอรู้.. ถึงความรู้สึกของ 'การวิ่งตาม' ..บ้างแล้วนะ.. . . อยากเป็น 'คนวิ่งตาม'... โดยที่ไม่รู้จักเหนื่อยบ้าง..เหมือนกัน

7 พืชผักที่ดีต่อสุภาพสตรี โดยตรง


มีพืชผักผลไม้อยู่ 7 ชนิด ที่มีผล "โดยตรง" กับสุขภาพของ "ผู้หญิง"

ลูกพรุน : เป็นแหล่งโปแตสเซียม เหล็ก และไฟเบอร์ ที่สำคัญพรุนช่วยทำให้ผิวพรรณมีเลือดฝาด คงความเป็นหนุ่มเป็นสาว คนเรานั้นเมื่อผ่านช่วงสดใสของชีวิตคือวัย 25 ปี ร่างกายจะเริ่มเสื่อมโทรม ไขมันเริ่มเข้าสะสมตามที่ต่างๆ ใบหน้าที่เคยเอิบอิ่มด้วยเลือดฝาดก็เริ่มหมองคล้ำ ผิวพรรณจากสีชมพูระเรื่อก็เริ่มซีดโทรม ธาตุเหล็กที่มีมากในลูกพรุน จะช่วยดูแลเรื่องนี้ ควบคู่กับภาวะที่สตรีต้องสูญเสียเลือดและธาตุเหล็กไปกับประจำเดือนอีกด้วย

ถั่ว : อุดมไปด้วยโปรตีน เหล็ก และวิตามินบี นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า เมื่อรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ (ซึ่งมีในถั่วมาก) ไฟเบอร์จะเคลือบผิวกระเพาะ ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว อิ่มนาน ความอยากอาหารจะลดลง แต่ยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยุ่มากด้วยจึงไม่เหมือนไฟเบอร์อื่นๆ ที่ไม่ให้สารอาหารที่มีคุณค่ากับร่างกาย นั่นทำให้ผู้หญิงรุปร่างดีโดยที่ไม่ขาดสารอาหารด้วย

บรอคโคลี : เป็นแหล่งซีลีเนียมตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูอ่อนนุ่มมีน้ำมีนวลเหมือนหนุ่มสาว แถมยังช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้


กล้วย : ในกล้วยไข่มีสารเบต้าแคโรทีน ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เมื่อเราอายุเลย 22 ปีไปแล้ว ความเจริญเติบโตของร่างกายจะเริ่มหยุดชะงัก ความเสื่อมของร่างกายเริ่มมาเยือนช้าๆ ทำให้เซลล์ในร่างกายทุกเซลล์ผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้น นอกจากนั้นเมื่อร่างกายเสื่อมสภาพ ความสามารถในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอก็จะลดลงเรื่อยๆ พร้อมกันนั้นความสามารถในการจำกัดอนุมูลอิสระก็ลดลงอย่างตกใจ ดังนั้นสาวๆ ควรสนใจรับประทานกล้วย โดยเฉพาะกล้วยไข่ให้มากขึ้นก็จะยอดมาก!


ฝรั่ง : เชื่อหรือไม่ว่าฝรั่ง 1 ขีด มีวิตามินซีสูงถึง 180 มิลลิกรัม ซึ่งวิตามินซีนี้มีบทบาทในการสร้าง ‘คอลลาเจน’ ที่ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ยืดหยุ่น ไม่หย่อนยานก่อนวัย


แอปเปิ้ล : มีสารอาหารที่สำคัญคือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ที่ชื่อ ‘เพคติน’ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนัก และลดคอเลสเตอรอล ยามใดก็ตามที่หินจนกินช้างหมดตัวได้ กินแอปเปิ้ลสักลูกจะดีกว่ามากๆ เลย (จริงๆ นะ)

ส้ม : แหล่งวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยธรรมชาติอันอุดม รู้ไหมว่า การรับประทานส้มโดยไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกทางหนึ่ง เพราะจะทำให้อิ่มท้องเร็ว เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักได้อย่างดีทีเดียว

ข้อดีของความทุกข์


1.ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น 2.ทำให้รู้ถึงค่าของความสุข 3.ทำให้เรามีความสามารถมากขึ้น 4.ทำให้เรามีสิ่งที่ต้องทำ(ทำเพื่อให้หาย ทุกข์ ) 5.ทำให้เรามีประสบการณ์ในการแก้ปัญหามาก ขึ้น 6.ทำให้เรามีความอดทนมากขึ้น 7.ทำให้ความสุขมีค่ามากขึ้น 8.ทำให้มีความระมัดระวังมากขึ้น 9.ทำให้เรามองโลกกว้างมากขึ้น 10.ทำให้เราเห็นได้ว่าใครคือคนที่เป็นที่พึ่งยาม ยากของเรา 11.ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่ห่วงเรา 12.ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่เป็นมิตรแท้ของเรา 13.ทำให้รู้ได้ว่าเพื่อนของเรามีความสามารถแค่ไหน 14.ทำให้เรารู้ว่าใครมีความสามารถขนาดไหน 15.ทำให้เรารู้ได้ว่ามีคนไหนที่รักเราจริง 16.ทำให้เรารู้ว่าการหัวเราะเป็นสิ่งจำเป็น 17.ทำให้เราพยายามที่จะมองโลกในแง่ดีมาก ขึ้น 18.ทำให้เรามาค้นหาข้อดีของความทุกข์

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553


ใช้ใจมอง 'เพื่อน'
คุณเชื่อในพรหมลิขิตมั้ย?
ถ้าไม่..
แล้วอะไรล่ะ
ที่ทำให้เรามาพบกับคนหลายคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
ถ้าไม่แล้วอะไรล่ะ
ที่ทำให้เราถูกชะตาจนเรียกคนๆนั้นว่า
' เพื่อน'

. เพื่อน...………
คนๆนึงที่ครั้งนึงก็เป็นได้แค่
คนแปลกหน้าคนหนึ่ง

เวลา ผ่าน เวลา คนแปลกหน้าคนนั้น
ก็กลับกลายมาเป็นคนที่เรา' ไว้ใจ'

....... เพื่อน………
คนที่พร้อมอยู่กับเราเสมอๆ
ไม่ว่า สุข ทุกข์เหงา เศร้า

....... เพื่อน………
คนที่พร้อมแชร์ความรู้สึกต่างๆ
โดยไม่เคยเอ่ยปากว่า
' ถ้าทำอย่างนั้นแล้วฉันจะได้อะไร'


....…... เพื่อน……......
คนที่ไม่เคยสนใจว่าเราจะหน้าตาดี มีสกุล
ร่ำรวย ยากจน สูง ต่ำ ดำ ขาว หรือไม่

........ เพื่อน.....คนที่ไม่เคยเสแสร้ง แกล้งทำ
.......... แต่...... เพื่อนตาย หายากเหลือเกิน
เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ ว่า คนๆนี้เป็น
เพื่อนตายของเราหรือไม่

เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่าคนๆนี้
เป็นคนที่พร้อมจะเคียงข้างเราเสมอไปมั๊ย
เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่า
คนๆนี้จริงใจกับเราแค่ไหน
ทั้งหมดนี้ เราใช้' ตา' มองไม่เห็น

........ แต่.......
ทั้งหมดนี้เราใช้' ใจ' มองเห็นได้
เมื่อบทความล่วงเลยมาถึงตอนนี้ คุณล่ะ?
ใช้ตามองเพื่อนหรือใช้ใจมองเพื่อน

เราบอกไม่ได้ว่าคนๆไหนดี ไม่ดี
จนกว่า...เราจะมี โอ กาส รู้จักกับคนนั้นแล้วใช้ใจของเราสัมผัส
การคบใครสักคนคบเพียงกายก็ไร้ประโยชน์
แต่ การคบใครสักคน จำเป็นต้องคบกันด้วยใจ
วันนี้..... คุณ ใช้อะไร คบเพื่อนของคุณ
อย่าบอกนะว่าคุณก็เป็นคนที่คบเพื่อน
แค่ตา...... เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น
คุณก็คงเป็นคนที่ไม่น่าคบคนหนึ่ง

♣ หากมีเพียง 100 คน .. บนโลกนี้ ♣


สิ่งที่คุณกำลังจะอ่านต่อไปนี้ได้มาจากอีเมล์ซึ่งภายหลังได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือ

บนโลกใบนี้มีคนมากกว่าหกพันล้านคนถ้าย่อโลกเหลือเป็นหมู่บ้านที่มีคนอาศัยเพียง100คนมันจะเป็นอย่างไร

52คนเป็นผู้หญิง
48คนเป็นผู้ชาย

89คนเป็นคนรักต่างเพศ
11คนเป็นคนรักเพศเดียวกัน

30คนเป็นเด็ก
70คนเป็นผู้ใหญ่
และ7คนในจำนวนนี้แก่แล้ว

70คนไม่ใช่คนผิวขาว
30คนเป็นผิวขาว

61คนเป็นเอเชีย
12คนมาจากยุโรป
27คนมาจากที่อื่นๆ

ใน100คนมีคนนับถือศาสนาและพูดกันหลากหลายภาษา
ในเมื่อมีคนหลากหลายเราจึงต้องยอมรับเรียนรู้และเข้าใจเขาให้ได้
จาก100คนในหมู่บ้าน20คนอดอยากแร้นแค้นขณะที่1คนกำลังจะตาย
แต่ อีก15คนอ้วน....ถ้าดูทรัพสินของหมู่บ้าน 6คนมีถึง59เปอเซนกลุ่มนี้ล้วนมาจากอเมริกาทั้งสิ้นอีก74คนมีไว้39เปอเซน และ20คนเฉลี่ยกันคนละ2เปอเซน ถ้าคุณมีรถใช้แสดงว่าคุณเป็น1ใน10คนที่รวยที่สุด
75คนมีอาหารและแหล่งพัก พิงกันลมกันแดดฝน แต่อีก25คนไม่มี ถ้าคุณสามารถพูดจา/แสดงออกตามความเชื่อและสามัญสำนึกของตนเองได้โดยไม่ต้อง โดนคุกคาม กังขัง ทรมานหรือถูกฆาตกรรม นั้นแสดงว่าคุณยังโชคดีกว่าอีก48คนที่ทำไม่ได้

ถ้าคุณไม่ได้อยู่อย่างหวาดกลัวกับความตายจากโดนระเบิด/อาวุธ เหยียบกับระเบิดหรือโดนข่มขืน นั้นแสดงว่าคุณยังโชคดีกว่าอีก20คน
ในจำนวนข้อความที่อ่านมาทั้งหมดที่อ่านมาดูเหมือนจะน้อย แต่อย่าลืมสิว่าเราย่อจำนวนคนจากหกพันล้านคนเหลือเพียง100คนเท่านั้น
ถ้า คุณได้อ่านข้อความนี้แสดงว่าคุณยังมีชีวิตอยู่และคุณอ่านหนังสือได้ ดังนั้นจงพึงคิดไว้เถอะว่าคุณยังโชคดีกว่าใครหลายๆคนที่ด้อยโอกาสกว่าเรา จงใช้มันให้คุ้มค่าและถูกต้องเถอะ


หลังจากชายคนหนึ่งพบรังไหมของตัวอ่อนผีเสื้อ
เขาเฝ้าจับตาความคืบหน้ามาตลอด

กระทั่งได้เห็นรอยปริ ขนาดเล็กปรากฏอยู่ที่ผิวภายนอก ชายคนนั้นจึงนั่งลง
และเฝ้าจับตามองความเคลื่อนไหวของตัวอ่อนผีเสื้ออยู่นานหลายชั่วโมง
เขาเห็นมันพยายามดิ้นรนจะพ้นจากช่องเล็ก ๆของรังไหมให้ได้

แต่เมื่อไม่สำเร็จ เจ้าตัวน้อยก็หยุดเคลื่อนไหว
เหมือนจะยอมรับว่าไม่อาจขืนทำอะไรได้มากไปกว่านั้น


เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะช่วยตัวอ่อนแล้ว...
ชายคนนั้นจึงหยิบกรรไกรขึ้นมาตัด เปิดช่องรังไหมจนกว้างพอที่ตัวอ่อนจะสามารถอ
อกมาได้อย่างง่ายดาย

ตัวอ่อนผีเสื้อน้อยจึงออกมาเผชิญโลกทั้งสภาพร่างกายบวมกลม
ตรงข้ามกับปีกที่มี ขนาดเล็กนิดเดียว!

แต่เขาก็เฝ้าจับตามองตัวอ่อนนั้นต่อไปด้วยความหวังว่า อีกไม่ช้า...
ปีกของมันจะขยายใหญ่ขึ้น


และแข็งแรงพอจะพยุงร่างกายมันได้ เมื่อถึงเวลาอันควร
แต่เมื่อเวลาผ่านไป... กลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง!
ผีเสื้อน้อยต้องเดินและคลานไปมาทั้งชีวิต
ด้วยสภาพร่างกายบวมกลมและปีกแห้ง เล็กที่ไม่เคยมีโอกาสจะบินได้
ภายใต้การดูแลอย่างอ่อนโยนของชายผู้หวังดี

สิ่งที่ชายคนนี้ไม่เคยเข้าใจก็คือ ธรรมชาติได้กำหนดมาแล้วว่า
ตัวอ่อนจะออกไปเผชิญโลกได้ก็ต่อเมื่อ
ของเหลวในร่างกายลดน้อยลงจนลำตัวมีขนาด สมดุลกับปีกเท่านั้น
จึงจะสามารถลอดออกจากช่องว่างขนาดเล็กของรังไหมได้ สำเร็จ?

และถ้าตัวอ่อนได้ผ่านการดิ้นรนจนถึงเวลานั้น มันจึงจะเติบโตเป็น ผีเสื้อ
ที่พร้อมโบกบินจากรังได้อย่างอิสระโดยแท้
การมีชีวิตอยู่โดยไม่ ต้องผ่านอุปสรรคใดๆ เลย

จึงมีแต่จะทำให้เราพิการและไม่แข็งแรง
การดิ้นรนฝ่าฟันอุปสรรคต่างหากที่เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินชีวิต
ซึ่งจะช่วยให้เรายืนหยัดอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง!!

ขนมสุดโปรดบอกนิสัย


1.ขนมเวเฟอร์จะเป็นพวกไอเดียกระฉูด มีความคิดแปลกๆ ใหม่ๆอยู่เสมอ และคิดในแนวสร้างสรรค์มากกว่าทำลาย เอาใจตัวเองอยู่เหมือนกันแต่ก็รักเพื่อน จิตใจหนักแน่น เรื่องความรักไม่ค่อยหวือหวาซักเท่าไหร่ เรียบๆ เรื่อยๆ แต่ก็จริงใจ

2.ขนมปังแท่งเป็นคนตรง ไม่โลเล รักความก้าวหน้ากระตือรือร้นไปซะทุกเรื่อง จึงชอบคิดค้นและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ ค่อนข้างเกาะติดกับกระแส แฟชั่น เรื่องรักจะค่อนข้างช่างเลือกต้องดีในสายตาถึงจะเข้าทาง ไม่ต้องเริดมาก แต่ต้องเชื่อใจ เข้าใจ เพราะจะให้ความสำคัญกับความรักมาก

3.ขนมเยลลี่นิสัยรักสนุกจึงติดเพื่อนเอามากๆ ไม่เป็นคนคิดเล็กคิดน้อย แต่ก็อ่อนไหวบ้างในบางครั้ง เคารพในการตัดสินใจของผู้อื่น และไม่ชอบอวดตัว ส่วนเรื่องความรัก ไม่ใช่คนโรแมนติกนัก แต่ความจริงใจเกินร้อย

4.ขนมช๊อกโกแลตจะค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง รักอิสระไม่ชอบให้ใครมาแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ หรือผูกมัดเกินความพอดี ไม่ชอบยึดติดกับอะไรนานๆ ไม่ชอบอยู่ในกฎเกณฑ์และก็ไม่ชอบให้ใครมาตั้งกฎด้วยเป็นเพื่อนได้กับทุกคน แต่บางครั้งก็แอบขึ้น้อยใจเล็กน้อย ค่อนข้างจะแฟร์เรื่องความรัก เกลียดการหึงโดยไร้เหตุผล และถ้าหากเป็นแฟนกันไม่ได้ เป็นเพื่อนกันก็ดี

5.ขนมปังเป็นคนอินเทรนด์สุดๆ อะไรอินอะไรเอาต์ตอบได้เป็นฉากๆ เป็นพวกขาดเพื่อนไม่ได้ จะไม่เห็นคนชอบขนมปังฉายเดี่ยวอย่างเด็ดขาด ชอบเฮฮาปาร์ตี้ล้อมรอบด้วยเพื่อนฝูง บางครั้งออกจะเป็นคนขี้โวยวายไปสักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นภัยทำให้ใครเดือดร้อน เรื่องความรักจะไม่ค่อยซีเรียสหรือตั้งกฎตายตัวว่าต้องเป็นอย่างงั้นอย่าง งี้ ไม่ชอบตามติดให้รำคาญใจกันเปล่าๆ

6.ขนมไทยหรือผลไม้ดองจะเป็นคนคล่องแคล่วว่องไว แต่ทำอะไรเป็นพักๆ เพราะเป็นคนเบื่อง่าย ชอบสังคมและพบปะผู้อื่น ออกจะเป็นคนขี้เหงาเกลียด การอยู่คนเดียว มีอารมณ์รุนแรง โกรธง่ายและโกรธนานเสียด้วยเรื่องความรักออกจะยุ่งเหยิงไปสักหน่อย ต้องคอยสับรางไปมาไม่ใช่เพราะเจ้าชู้ แต่เป็นเพราะเป็นคนเสน่ห์เหลือเฟือต่างหาก

7.ชอบกินถั่วเป็นคนไม่จริงจังกับชีวิตนัก ปล่อยขำๆไปวันๆ ค่อนข้างรักอิสระ และมีโลกส่วนตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใครนัก มีความคิดโลดโผนแปลกกว่าชาวบ้านเค้า ชอบทำอะไรแผลงๆ เอามันไว้ก่อนแต่ก็เป็นคนแฟร์ ตรงไปตรงมาไม่เสแสร้ง สำหรับเรื่องความรักก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญมากมายนัก คิดซะว่ามีเมื่อไหร่มันก็มาเอง ความรักของคนกินถั่วไม่ต้องเฟอร์เฟกต์ก็ได้

8.หมากฝรั่งจะเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย รักความเสี่ยงและการทำอะไรที่ท้าทาย มักจะเป็นคนแหกกฎอยู่เสมอ ไม่ชอบทำอะไรเหมือนคนอื่น และเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง ด้านความรักจะค่อนข้างเปิดเผย รักใครชอบใครก็จะพูด ก็จะแสดงออกมาให้เห็นกันไปเลย ไม่ชอบอ้อมค้อมให้เสียเวลาซักเท่าไหร่

วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

6 ข้อที่ควรนึกถึง เมื่อมีคนรัก


คนรักกัน อยู่ใกล้กันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ไม่มากก็น้อย อยู่กันไปนานๆความหวานก็เริ่มจืดจาง วันนี้มีวิธีเพิ่มความหวาน กับ “6 ข้อที่ควรนึกถึง เมื่อมีคนรัก”

นึกถึงสิ่งดีๆ ที่มีให้กันในยามโกรธ :
เวลา ที่เริ่มโกรธ อารมณ์พลุ่งพล่านเข้าขั้นช้างก็ฉุดไม่อยู่คนที่จะระงับอารมณ์ความโกรธได้ก็ คงมีแต่ตัวคุณเองนั่นแหละ ขอให้คุณพยายามนึกถึงสิ่งที่ดีๆ ที่เราเคยทำให้กันไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายไปมากกว่านี้

หมั่นให้เวลากันและกัน :
เวลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการมี ความรัก แม้แต่การโทรไปคุยกับเขา หรือเธอเพียงช่วงสั้นๆแล้วป้อนคำคิดถึงให้กัน

เวลาคุยกันก็สบตากันบ้าง :
ดวง ตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ถ้าคุณคุยกับหวานใจ แต่สายตากลับหันไปมองโน่นมองนี่คำพูดที่คุณพูดมันคงไม่ค่อยลึกซึ้งเท่าไหร่ หรอก เลิกทำตัวกล้าๆ กลัวๆ ที่จะสบตากัน แล้วคุณจะรู้ว่าบางครั้งแค่มองตากันอย่างเดียวก็ลึกซึ้งเกินคำพูดที่เอ่ย แล้ว

เป็นฝ่ายง้องอนกันบ้าง :
ถ้าแฟนของคุณเริ่มมีอาการงอนตุ๊บป่องขึ้นมา ให้รีบง้อเขาซะ สุดแท้แต่ว่าจะง้อยากง้อง่าย

อย่าให้ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างกันเกิน 5 นาที :
เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเล็กๆ บ่งบอกถึงรักที่กำลังจืดจางของคุณดังนั้น พยายามเป็นฝ่ายชวนคุย เปิดประเด็นกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ

เปิดเผยตัวเองไว้ :
สรุป ได้ว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละที่เป็นสิ่งไม่ควรละเลย นับตั้งแต่เมื่อคุณเริ่มต้นคบกันคิดซะว่าเป็นเรื่องพื้นฐานง่ายๆ ในการที่จะดำรงความรักของคุณ ให้หวานชื่นอบอุ่นอยู่เสมอเป็นสำคัญ

******เวลามีคนรัก อย่าลืม 6 ข้อนี้นะคะ แล้วคุณจะไม่มานั่งเสียใจภายหลัง

"แดจาวู" เกิดจากอะไร


Deja-vu ก็คืออะไรที่เคยเห็นผ่านตามาแล้วนั่นล่ะค่ะ เป็นภาษาฝรั่งเศสที่ภาษาอังกฤษยืมมาใช้ ส่วนใหญ่ก็จะใช้กันในแวดวงเรื่องของจิต เรื่องของสังหรณ์และการระลึกได้
Deja = แล้ว
vu นี่มาจากช่องที่สามของ voir เป็นกริยาที่แปลว่าเห็นค่ะ
Longman dic. เขาให้ความหมายไว้ว่า
deja vu : the feeling of remembering something that in fact one is experienceing for the first time; a feeling / sense of deja vu. (ทั่วไปเวลาเขียนบนตัวe และ a จะมีอั๊กซองด้วยนะคะ)
Oxford dic เขาให้ความหมายไว้อย่างนี้ค่ะ
deja vu: 1.feeling that one remembers an event or scene that one has not experienced or seen before.
2.(infml) feeling that one has experienced sth too often: there was an awful feeling of deja ve at the annual party.

แดจาวู เป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่ง ที่ยังหาสาเหตุที่แน่นอนไม่ได้
ตามตำราของ คุณหมอจิตเวช อเมริกาท่านหนึ่ง ท่านก็บอกว่าสาเหตุอาจคล้ายกับการระลึกชาติ เหมือนหนังสือดัง (เราจะข้ามเวลามาพบกัน)
หรือ เกิดจากการตั้งสติ ในขณะที่ทำกิจกรรมนั้นๆ แต่ก็คือยังหาข้อสรุปที่แน่ชัดไม่ได้ ก็คงต้องรอคำตอบกันต่อไป

สิ่ง ใดก็ตามที่เคยเกิดไปแล้วในอดีต จะย้อนกลับมาเกิดซํ้าอีก เหมือนกับการที่เรากลับชาติมาหลายชาติ นั่นแหละ เราจะผ่านประสบการณ์มากมาย และบางสิ่งอาจหลงเหลือในความทรงจำ แล้วย้อนกลับมาเกิดอีก ทำให้รู้สึกว่าเคยเห็นมาก่อน

เดจาวู เป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ..

ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่า เดจาวู มันเกิดจากการที่ขณะหลับ จะมีการหลับอยู่หลายขั้น (ประมาณ 5ขั้น) ถ้าเห็นอนาคตที่เคยทำ ก็จะอยู่ประมาณขั้นที่ 3 ยิ่งขั้นมากขึ้น ความสัมพันธ์กับร่างกายและวิญญาณ จะยิ่งห่างไกลกันออกไป ถ้าหลับลึกถึงขั้นที่ 5 ก่อนหลับจะรู้สึกชาตามร่างกายทั้งตัว ขยับตัวเองไม่ได้ พูดไม่ได้ (ลักษณะที่คนทั่วไปเรียกว่าถูกผีอำ) ถ้าหลับในสภาพนี้ อัตราค่าซิงโครกับร่างกายจะลดต่ำ ลงจนเหลือ 0 แล้ววิญญาณก็จะหลุดออกจากร่างกาย.. (จะเป็นไงก็ไม่รู้เพราะยังไม่มีใครเคยลองทำ)

สิ่งเดียวที่สำเร็จคือความล้มเหลว


1.ไม่รู้จักตนเอง

เพราะไม่รักตัวเอง จึงไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง

เพราะไม่รู้ศักยภาพของตัวเอง จึงไม่มีจุดยืนของตัวเอง


2.ไม่เข้าใจคนอื่น

เพราะ ไม่เปิดใจ จึงไม่เข้าใจความแตกต่าง

เพราะไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา จึงไม่ได้เอาคนอื่นมาเป็นคติสอนใจ


3.ไม่มีเป้าหมาย

เพราะขาดความเชื่อศรัทธา จึงขาดแรงผลักดัน

เพราะไม่มีแรงบันดาลใจ จึงขาดแรงจูงใจ

เพราะยังไม่เจอปัญหา จึงขาดไฟ

เพราะยังไม่มีModel จึงขาดVistion

เพราะไม่มีจินตนาการ จึงขาดความรู้

เพราะไม่มีสติ จึงขาดปัญญา


4.ยังไม่ได้ลงมือทำ

เพราะเพิกเฉย จึงพลัดวันประกันพรุ่ง

เพราะกลัว จึงไม่กล้าตัดสินใจ

เพราะรอ จึงยังไม่พร้อม

เพราะขี้เกียจ จึงงานเยอะ

เพราะยังไม่อยากทำ จึงไม่บริหารเวลา

เพราะไม่ยอมเปลี่ยน จึงไม่ลงมือทำ


5.ยังไม่ได้ประเมินผล

เพราะยังไม่ได้ใส่ใจ เลยไม่รู้ปัญหา

เพราะยังไม่ได้ทบทวน เลยไม่ได้ใคร่ครวญให้ดี

เพราะมัวแต่เพ่งโทษตนเอง เลยยึดติด

เพราะไม่มีทางออก ก็เลยต้องออกนอกเส้นทางบ่อยๆ

เพราะไม่ได้แก้ไข จึงไม่ได้ปรับปรับปรุง

เพราะสักแต่ว่าทำ เลยไม่ทำให้ดีกว่าเดิม

เพราะเผลอ จึงประมาท


6.ยังไม่มีคนคอยชี้ทาง

ไม่มีครู ไม่มีเพื่อนร่วมทาง ไม่มีคนเกื้อหนุน ไม่มีคนช่วยเหลือ


7.คุณรู้แก่ใจ…. ( ปลายทาง)

15 ประโยชน์สุดแจ่มของ ยาสีฟัน



1. บรรเทาอาการระคายเคืองจากแมลงกัดต่อยหรือแผลพุพอง ทายาสีฟันลงไปบริเวณที่ถูกแมลงกัดต่อยโดยตรง มันจะบรรเทาอาการคันและลดความบวมลงได้ ส่วนแผลพุพองยาสีฟันจะทำให้แผลแห้งและหายเร็วขึ้น โดยควรทาทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
2. บรรเทาแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก สำหรับแผลเล็กน้อยที่ไม่มีรอยเปิด ยาสีฟันจะให้ความเย็นที่ช่วยบรรเทาอาการได้ โดยต้องทาลงไปทันทีหลังเกิดรอยแผล
3. กำจัดสิว อยากให้สิวหายเร็วขึ้นงั้นหรือ? ลองทายาสีฟันลงบนสิวแล้วทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วล้างออกในตอนเช้าสิ สิวจะยุบลงและหายเร็วขึ้น
4. ทำความสะอาดเล็บ ทั้งเล็บและฟันมีส่วนประกอบของกระดูกเหมือนกัน ยาสีฟัน จึงดีกับเล็บเช่นกันเพราะฉะนั้นอย่าลืมใช้แปรงและยาสีฟันขัดเล็บเป็นประจำ เพื่อช่วยให้เล็บสะอาดเป็นเงางาม และแข็งแรงขึ้น
5. ทำให้ผมอยู่ทรง ยาสีฟันแบบเจลมีส่วนผสมของโพลีเมอร์ที่ละลายน้ำ ซึ่งเป็นส่วนผสมแบบเดียวกับที่เจลแต่งผมส่วนใหญ่ใช้ ฉะนั้น ถ้าคุณมองหาอะไรที่จะสร้างสรรค์ผมซึ่งต้องการความอยู่ตัวแบบสุด ๆ แต่เจลแต่งผมเกิดขาดมือ ลองใช้ยาสีฟันแบบเจลแทนก็ได้
6. กำจัดกลิ่นเหม็น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกระเทียม หัวหอม ปลา หรืออาหารกลิ่นแรงอื่น ๆ ที่ติดอยู่บนมือ ลองใช้ยาสีฟันถูมือ มันจะช่วยกำจัดกลิ่นพวกนี้ได้
7. กำจัดรอยเปื้อน รอยเปื้อนที่กำจัดยากบนเสื้อผ้าหรือพรม ยาสีฟันสามารถช่วยได้สำหรับเสื้อผ้า ทายาสีฟันลงบนรอยเปื้อนโดยตรงและขยี้เบา ๆ จนกระทั่งรอยเปื้อนหายไป แล้วซักตามปกติ (แต่ควรระวัง ถ้าใช้ยาสีฟันแบบไวเทนนิ่งบนผ้าสีอาจทำให้สีผ้าซีดลงได้) สำหรับรอยเปื้อนบนพรม ทายาสีฟันลงบนรอยเปื้อน ใช้แปรงขัดจนรอยเปื้อนจางลง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
8. ชุบชีวิตรองเท้าเก่า ทำความสะอาดรองเท้าวิ่งที่สกปรกมอมแมม แต่ซักน้ำไม่ได้ ด้วยการทายาสีฟันลงบนรอยเปื้อนแล้วขัดเบา ๆ จากนั้น เช็ดให้สะอาด
9. กำจัดรอยสีเทียนบนผนัง ใช้ผ้าชุบน้ำพอชื้น ๆ กับยาสีฟันขัดเบา ๆ บนรอยเปื้อน
10. ทำความสะอาดเครื่องประดับเงิน ทายาสีฟันลงบนเครื่องประดับเงิน แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นใช้ผ้าสะอาด ๆ เช็ดออกในตอนเช้า ส่วนเครื่องประดับที่เป็นเพชร ก็สามารถใช้แปรงนุ่ม ๆ ยาสีฟันเล็กน้อย และน้ำขัดเบา ๆ ให้แวววาวดังเก่าได้ แต่อย่าใช้กับมุกเพราะจะทำให้เคลือบผิวเสียหายได้
11. กำจัดรอยขีดข่วนบนซีดี ได้ผลดีกับรอยขีดข่วนตื้น ๆ และรอยเปื้อนทั่วไปแค่ทายาสีฟันบาง ๆ ลงบนแผ่นซีดี ถูเบา ๆ แล้วเช็ดด้วยน้ำให้สะอาด
12. ทำความสะอาดคีย์เปียโน น้ำมันบนผิวหนังอาจติดอยู่บนคีย์เปียโน และดึงดูดเอาฝุ่นและความสกปรกมาสะสมไว้ ทำความสะอาดมันด้วยผ้าที่ปราศจากขุยชุบน้ำพอชื้น ๆ แตะยาสีฟันเล็กน้อยจากนั้น เช็ดซ้ำด้วยผ้าสะอาด ๆ อีกผืน
13. กำจัดกลิ่นขวดนมเด็ก ถ้าขวดนมเริ่มมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวของนมบูด ลองใช้ยาสีฟันทำความสะอาดคราบตกค้างและกำจัดกลิ่น แต่ต้องล้างน้ำสะอาดให้หมดจดจริง ๆ ก่อนใช้
14. กำจัดรอยไหม้บนหน้าเตารีด ซิลิก้าในยาสีฟันสามารถช่วยกำจัดคราบดำ ๆ ไหม้ ๆ พวกนั้นได้
15. คืนความใสให้เลนส์ แว่นตาสำหรับว่ายน้ำหรือดำน้ำอาจขุ่นมัวได้เมื่อใช้ไปนาน ๆ ก่อนจะซื้ออันใหม่ลองทายาสีฟันเล็กน้อย ลงบนกระจกแว่น ถูให้ทั่วแล้วล้างให้สะอาด แต่อย่าขัดแรงเกินไป เนื่องจากส่วนผสมที่มีฤทธิ์ในการขัดสีในยาสีฟันอาจทำให้เลนส์เป็นรอยได้